สำหรับนักพัฒนาเว็บไซต์ Text Editor ถือเป็นเครื่องมือ และเพื่อนคู่ใจคนนึงเลยก็ว่าได้ เพราะหากเราได้ใช้เครื่องมือที่ดี ตรงตามความต้องการมันก็จะช่วยงานเราได้อย่างมาก สำหรับเครื่องมือที่นิยมและคุ้นหน้านคุ้นตากันนั้นก็คงหนีไม่พ้นผลิตภัณฑ์จากฝั่ง Abobe นั้นก็คือ Adobe Dreamweaver แน่นอนครับมันว่าดี และถือเป็นเครื่องมือที่นักพัฒนาทั่วโลกให้การยอมรับ ผมเองก็เติบโตมากับมัน แต่การที่จะได้นำมาใช้นั้นจำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่าย นั้นก็คือ ซื้อ License ซึ่งอดีตนั้นต้องจ่ายกันเป็นหมื่นๆ เลยทีเดียว แถึงแม้ปัจจุบันจะได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจ่ายเงินใหม่ให้สามารถจ่ายได้เป็นรายเดือนแล้วก็ตาม แต่มันก็ยังราคาสูงอยู่ดี แต่เอ๋! พอจะมีโปรแกรมที่มีความสามารถใกล้เคียงและฟรีมั้ย คำตอบคือ “มีครับ” ซึ่งในบทความนี้ผมจะมาแนะนำโปรแกรม Text Editor ที่สามารถใช้งานได้ฟรี และรองรับทั้ง  Mac OSX และ Windows ส่วนจะมีโปรแกรมอะไรบ้างนั้นต้องไปดูกันครับ

CotEditor

Support: Mac OSX

Text Editor ที่ดูเรียบง่าย และมีขนาดเบาเหมาะสำหรับเครื่องที่มีฮาร์ตดิสไม่มาก หากเปรียบกับ Windows ก็น่าจะใกล้เคียงกับโปรแกรม Notepad++ ที่หลายๆ คนคุ้นเคย สำหรับ CotEditor นั้นรองรับการเขียนมากกว่า 40 ภาษา อาทิเช่น HTML, CSS, PHP, Python, Ruby และ C++ นอกจากนี้ CotEditor ยังมี Feature ที่น่าสนใจอื่นๆ อีก อาทิเช่น การ Split หน้าจอที่สามารถเขียนไฟล์อื่นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน, Auto Backup ที่จะช่วยเซฟไฟล์ให้เราโดยอัตโนมัติ แต่ดูเหมือน CotEditor จะไม่มี Feature อย่าง Auto-Completion ซึ่งเป็นเรื่องยากกับ Web Design มือใหม่ที่ต้องจำรูปแบบการเขียนเองทั้งหมด

Brackets

Support: Mac OSX, Windows และ Linux

Text Editor ที่เข้าใจหัวอก Web Designer มากที่สุด คอนเซ็ปต์เค้าว่างั้น เพราะนอกจากจะเบาแล้ว ยังมี Feature ต่างๆ มากมายที่ตอบโจทย์ Web Design อย่างแท้จริง ยกตัวอย่างเช่น Live Preview ที่เป็นการ Preview การเขียนไปพร้อมกับการแสดงผลบน Browser แบบ Real Time ประมาณว่าเราชี้ตรงไหน แก้ตรงไหน มันก็จะเปลี่ยนให้ทันทีโดยไม่ต้องทำการ Refresh หน้า, Extract (Preview) ที่จะเป็นตัวช่วยในการบอกรายละเอียดของไฟล์ PSD เช่น ค่าสี, ขนาดความยาว-สูง, Auto-Completion ที่จะช่วยให้การเขียนโค๊ดเป้นเรื่องที่สะดวกขึ้น และอื่นๆ นอกจากนี้ ยังมี Extension จากนักพัฒนาอื่นๆ มากมายให้เลือกใช้

ATOM

Support: Mac OSX, Windows และ Linux

Text Editor ที่จะช่วยให้การเขียนโค๊ดเป็นเรื่องที่ง่ายและสนุกขึ้น เพราะ ATOM นอกจากจะเป็น Text Editor ที่ใช้ในการเขียนโค๊ดต่างๆ แล้ว ยังมีลูกเล่นมากมายให้เราได้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ Theme หรือ Package ที่จะมีทั้งลูกเล่นแปลกใหม่และเครื่องช่วยต่างๆ อีกทั้งยังมีคู่มืออธิบายชัดเจนพร้อมภาพประกอบ เรียกได้ว่าเป็น Text Editor ที่เราสามารถปรับแต่งได้ตามใจเลยก็ว่าได้

Sublime Text

Support: Mac OSX, Windows และ Linux

อีกหนึ่ง Text Editor ที่โปรแกรเมอร์นิยมใช้เพราะนอกจากจะเบา เรียบง่าย และรองรับหลายภาษาแล้ว Sublime Text ยังมี Feature ที่ช่วยให้การเขียนโค๊ดสะดวกมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น Goto Anything รูปแบบการค้นหาที่รวดเร็ว, Multiple Selections การเลือกแก้ไขคำเดียวกันในครั้งเดียว, Auto-Completion ที่จะช่วยให้เขียนโค๊ดได้เร็วขึ้น และอื่นๆ อีกมากมาย Sublime Text นับเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ไม่ควรมองข้าม

Google Web Designer

Support: Mac OSX, Windows และ Linux

เครื่องมือสำหรับ Web Designer ที่ทาง Google หมายมั่นปั้นมือพัฒนาขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งาน HTML5 โดยเฉพาะ โดย Google Web Designer นั้นถือได้ว่าเป็นคู่ปรับกับ Adobe Edge Animate CC อย่างแท้จริงเพราะลักษณะการใช้งานใกล้เคียงกันมาก สำหรับ Google Web Designer นั้น นอกจากจะเป็นโปรแกรมที่ใช้เขียนพวก HTML, CSS และ JavaScript แล้ว ยังเด่นในเรื่องของการทำงาน Interactive และ Animation ที่สร้างจาก HTML5 โดยส่วนใหญ่นั้นจะถูกนำไปใช้ในงานโฆษณาซะมากกว่า

Aptana Studio

Support: Mac OSX, Windows และ Linux

ถือเป็นเครื่องมือของ Developer อย่างแท้จริงเพราะนอกจากจะรองรับภาษาต่างๆ มากมาย อาทิเช่น HTML, CSS, JavaScript, PHP และ Ruby แล้ว Aptana Studio ยังมี Feature ที่เป้นประโยชน์ต่อนักพัฒนาเว็บไซต์อีกด้วย ยกตัวอย่างเช่น มี FTP, SFTP, FTPS และ Capistrano ในตัวทำให้สามารถอัพโหลดงานขึ้น Server ได้โดยตรง, มี Terminal ติดตั้งในตัว ทำให้ง่ายในการพิมพ์คำสั่งต่างๆ กับ Server, หากทำการสร้าง Project ใหม่ Aptana Studio จะทำการสร้างไฟล์ตัวอย่าง รวมไปถึงจัดการ Folder ต่างๆ ให้พร้อมสับเลย และอื่นๆ อีกมาก ดังนั้น หากเพื่อนๆ เป็นโปรแกรมเมอร์ Aptana Studio ถือว่าตอบโจทย์การใช้งานมากๆ

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 6 โปรแกรมที่ได้แนะนำกันไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบ และความถนัดของแต่ละท่านนะครับ ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดหรือแย่ที่สุดเพราะแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกัน ดังนั้น เลือกสิ่งที่ใช่และตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุดก็แล้วกันครับ